แหวนโภคทรัพย์ทำกิน(แหวนงูเหลือมปากเป็ด) #เนื้อทองระฆัง ฝังหัวนิล สร้าง ๑๑๐๐ วง

แหวนโภคทรัพย์ทำกิน(แหวนงูเหลือมปากเป็ด)

แหวนโภคทรัพย์ทำกิน(แหวนงูเหลือมปากเป็ด)
#เนื้อทองระฆัง ฝังหัวนิล สร้าง ๑๑๐๐ วง

#หมายเหตุ แหวนทุกวง จะเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้ง วาระที่๓ (ปลุกเสกปิดท้าย) ในวันศุกร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล และจะทำการจัดส่งให้กับทุกท่านที่สั่งจองครับ

#ปฐมบทแห่งแหวนโภคทรัพย์ทำกิน(งูเหลือมปากเป็ด)
งูเหลือมปากเป็ด (งูดินขนาดเล็กชนิดหนึ่ง) คนใต้แต่โบรานส่วนมากจะมีความเชื่อว่าเป็นสัตว์มงคลแก่บ้านเรือน เป็นโภคทรัพย์แก่ผู้ครอบครอง
#ตำนานแห่งงูเหลือมปากเป็ด ตำนานที่ ๑
ตำนานงูเหลือมปากเป็ดนี้มีบริบทเกี่ยวข้องกับมโนราห์ โดยมีตำนานเล่าขานกันต่อมาว่า
มีพราหมณ์ผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ได้ทำการสักการะบูชาพระอินทร์และเทวดาทั้งหลายด้วยอาหาร ๗ ถ้วย ๙ ถ้วย ๑๒ ถ้วย จนถึงพระอินทร์ได้พอใจในการตั้งจิตสักการะในครั้งนี้ พระอินทร์ท่านจึงถอดแหวนจากมือโยนลงมาจากสวรรค์ ๒ วง
วงที่ ๑ เป็นแหวนหัวนิล
วงที่ ๒ เป็นแหวนหัวเพชร
เมื่อแหวนดังกล่าวตกลงถึงพื้นดินจึงกลายเป็นงูเหลือมปากเป็ดสองตัว ตัวหนึ่งที่หัวจุดนูนสีดำดั่งเม็ดนิล ตัวหนึ่งมีจุดสีขาวดั่งหัวเพชร
พราหมณ์นั้นเมื่อเห็นงูเหลือมปากเป็ดจึงเอาเหรียญเงิน เหรียญทอง มาบูชา ปรากฏว่า ได้บังเกิดเหรียญเงิน เหรียญทอง เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมากมาย จนทำให้พราหมณ์นั้นร่ำรวยมหาศาล
มโนราห์สมัยก่อนจึงแต่งบทบูชาครูสืบต่อกันมาดั่งมีบทหนึ่งกล่าวถึงพระอินทร์ ได้หัวนิล หัวเพชร แต่กลายเป็นงูเหลือมปากเป็ดเป็นโภคทรัพย์สำหรับเรือน
ลูกหลานคนใต้สมัยก่อนจึงเชื่อว่างูเหลือมปากเป็ดเป็นของดีทางโภคทรัพย์ เมตามหานิยม จะหางูจริงนั้นได้ยาก จึงได้ตีเป็นแหวนขึ้นมาใช้
วงหนึ่งฝังหัวนิล
วงหนึ่งฝังหัวเพชร
ส่วมใส่ติดตัวเป็นโภคทรัพย์ ทำกินเงินทองไม่ขาดมือ เป็นโภคสมบัติต่อบ้านเรือนที่มีแหวนนี้อยู่

ตำนาน..#งูเหลือมปากเป็ด ตำนานที่ ๒
...งูเหลือมปากเป็ด มีตำนานเล่าขานอย่างยาวนานหลายกระแส ที่แตกต่างกันออกไป ครั้งก่อนหน้าได้โพสไปแล้วหนึ่งตำนาน วันนี้มาฟังมาศึกษากันอีกตำนานที่มีหลักฐานการอ้างอิงและเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนาในไตรภูมิพระร่วงและเป็นตำนานพื้นบ้านที่ชาวปักษ์ใต้ รวมถึงชาวสยามในอดีตได้เล่าขานกันมา เรื่องมีอยู่ว่า...
ในแดนสวรรค์มีพญานกการเวกหรือปักษาวายุภักษ์ ผู้เมียสองตัว ทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าคลังสมบัติบนสรวงสวรรค์ โดยได้รับพรจากพระเจ้าว่าให้มีเสียงร้องก้องฟ้า ก้องเวหน สะกดใจคน เทพ เทวดา นาคนาคาและคนธรรพ์ ตลอดจนแม้แต่ยักษ์มารก็มิเว้น แม้นผู้ใดบุกรุกไปจะขโมยสมบัติหากได้ยินเสียงร้องก็ต้องหยุดนิ่ง หยุดฟัง จังงังไปด้วยความหลงไหลในเสียงอันไพเราะเสนาะหู จนลืมที่จะขโมยทรัพย์สินนั้นหรือเดินหลงวนเวียนอยู่ในที่นั่นหาทางออกมิพบเลย.. จนมาคราวหนึ่งเทพบนสวรรค์ถึงคราวเคราะห์โดนคำสาปจากมหาฤาษีทุรวาส ให้เทพเทวดาหมดฤทธิ์ลง แม้แต่พระอินทร์ก็มิเว้น จนเกิดมีพญามารบุกถึงแดนสวรรค์ ในขณะที่พญามารกำลังยกพลกันมารบรากับเทพบนสวรรค์ พญานกการเวกทั้งสองตัวนั่นหาได้สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่า ไม่มีใครกล้าเข้ามาในแดนสมบัติที่ตนรักษาอยู่ จึงได้บินกันออกไปเกี้ยวพาราสี ตามประสาของวิหคนกสวรรค์ แต่เมื่อกลับมาถึงคลังสมบัติ ปรากฎว่าถูกพญามารขโมยสมบัติไปจนสิ้น จนองค์เทพพระคลังไม่พอใจ ขึ้นทูนความต่อพระอินทร์ พระอินทร์ทรงพิโรธนักจึงได้สาปนกทั้งสองว่า เราให้เจ้าทั้งคู่อยู่ที่นี่ ไม่ต้องบินหากินให้เหน็ดเหนื่อย เพราะที่คลังแห่งนี้มีอาหารทิพย์มากมาย เพียงเจ้าเกาะกิ่งต้นกัลปพฤกษ์แล้วเฝ้ารักษาสมบัติ เจ้าก็อิ่มไปด้วยอาหารทิพย์มากมาย แต่เจ้าทั้งสองละเลยในหน้าที่ เราจะสาปให้เจ้าทั้งสองผัวเมีย บินรอบจักรวาล ให้บินวนสวนทางกันคนละทิศคนละทางอย่าได้พานพบกัน และมิให้ผู้ใดได้ยลโฉมของเจ้าทั้งสอง แม้เจ้าจะเป็นนกที่งามที่สุดก็ไม่ให้ใครได้พบเห็น ให้บินสูงเหนือเมฆ กินลม เป็นอาหาร และหากขนของเจ้าตกลงที่ใด ให้ขนนั่นกลายเป็นงู อย่าได้มีความงามให้มนุษย์เห็น แต่ด้วยคุณงามความดีที่เจ้าทั้งสองเคยได้ทำไว้เราจะให้ขนที่หล่นลงนั่น กลายเป็นงูเหลือมปากเป็ด โดยขนของพญานกตัวผู้กลายเป็นงูมีหัวเป็นเพชร ขนของพญานกตัวเมียกลายเป็นงูเป็นหัวเป็นนิล หากขนนี้ตกลงตรงไหน กลายเป็นงูเหลือมปากเป็ด แล้วมีใครเอาเงินทองมารองรับเอาไปบูชา ให้บ้านนั่น ผู้นั่นมั่งคั่งไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของนาสารพัน แคล้วเขี้ยวแคล้วงา ปลอดจากเพทภัยทั้งปวง เจริญด้วยโภคทรัพย์ทุกประการ และให้พรว่าในทุกวัน 14 วันให้เจ้าบินมาพบกัน 1 ครั้ง หรือ1 ปักษ์ (ที่มาจากพญาปักษาเป็นตำนาน) ในหนึ่งเดือน มี 2 ปักษ์ คือ กุศลปักษ์ เป็นปักษ์ฝ่ายข้างขึ้น ฝ่ายขาว แสงสว่าง ให้ขนตัวผู้ที่กลายเป็นเป็นงูเหลือมปากเป็ดหัวเพชรล่วงหล่นในช่วงกุศลปักษ์..และอีกปักษ์คือ กาฬปักษ์ เป็นปักษ์ฝ่ายข้างแรม ฝ่ายมืด ให้ขนนกตัวเมียร่วงหล่นกลายเป็นงูเหลือมปากเป็ดหัวนิล และในทุก14 วัน จะบินมาพบกัน 1 ครั้ง ส่วนมากคือตรงกับวันเพ็ง(เพชร) และวันดับ (มืด นิล) ให้ขนที่ร่วงในวันนั่นเป็นได้ทั้งหัวนิล และหัวเพชร เลยมีตำนานเล่าขานว่า หากได้ในวันเพ็ง หรือ วันดับ ให้ลองหาดูมักมีอีกตัว เพราะจะมาเป็นคู่กัน ทั้งตัวผู้และตัวเมีย หากผู้ใดมีไว้ทั้งคู่จักบังเกิดซึ่งโภคทรัพย์นานับประการแล

หัวนิลเน้นทางอาถรรพ์การค้าขาย เมตตา โภคทรัพย์